ทักษะสร้างลูกรัก ให้รู้จักช่วยเหลือตนเอง 

เมื่อคุณกำลังเร่งรีบพาเด็กๆออกจากบ้าน แต่ลูกอายุ3ขวบของคุณกำลังใส่รองเท้าอย่างเชื่องช้า คุณพ่อคุณแม่โมโหแต่ต้องพยายามควบคุมอารมณ์ การพยายามให้ลูกฝึกช่วยเหลือตนเองเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและความอดทน Jane Hewes (ประธานศูนย์พัฒนาทักษะเด็กเล็กแห่ง Grant MacEwan University in Edmonton) กล่าว “เมื่อเด็กเรียนรู้ที่จะทำสิ่งต่างๆด้วยตัวเอง พวกเขาจะสามารถพัฒนาทักษะอื่นๆของตนได้และมันทำให้พวกเขารู้สึกภูมิใจและมีค่า ” นี่คือสิ่งที่เด็กๆสามารถเรียนรู้ด้วยตัวของพวกเขาเองในแต่ละช่วงวัย ตั้งแต่วัยหัดเดินถึงวัยประถม คุณพ่อคุณแม่ระลึกไว้ว่าการเรียนรู้ก่อนย่อมดีกว่าเสมอ นี่คือสิ่งที่คุณสามารถช่วยลูกๆเติบโตสู่การพึ่งพาตนเองได้ในวัยรุ่นต่อไป

ลูกรักวัยหัดเดิน (1-3 ปี)

ให้ “ หนูทำเอง ” กลายเป็นคติประจำใจของลูกรักและถึงเวลาแล้ว ที่ผู้ปกครองควรเริ่มฝึกให้ลูกพึ่งพาตนเอง

การเข้าห้องน้ำของเด็ก: วัย24-36เดือน เป็นช่วงที่เด็กพร้อมที่จะเรียนรู้เรื่องการใช้ห้องน้ำ และพวกเขาจะแสดงออกว่าสนใจสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำ Emmett Francoeur แพทย์ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า “ พวกเขาเริ่มที่จะอยากรู้อยากเห็นเมื่อผู้ใหญ่ใช้ชักโครกและเกิดการเลียนแบบ หรือเริ่มที่จะสำรวจชักโครกและแผ่นรองนั่ง”ทันทีที่ลูกๆของคุณมีท่าทีว่าสนใจ ในเบื้องต้นนั้น ควรส่งเสริมให้เขาใช้ชักโครก 1 หรือ 2 ครั้งต่อวัน เมื่อเด็กๆทำได้ควรกล่าวคำชมเชยลูกรัก

การเทน้ำดื่ม: เด็กวัย 18 เดือน สามารถเทน้ำใส่แก้วที่ไม่มีฝาได้ด้วยตัวเอง ให้ลูกได้เติมน้ำด้วยตัวเอง เริ่มด้วยเหยือกน้ำแก้วเล็กๆที่มีหูจับ

การกินโดยใช้ช้อน : เมื่อเด็กๆได้นั่งบนเก้าอื้ทรงสูง พวกเขาจะสามารถกินอาหารบนโต๊ะ ได้ด้วยช้อน ให้ช้อนแก่ลูกรัก ปล่อยให้เขาได้ใช้ช้อนด้วยตนเอง การถือช้อนจะช่วยลูกรักพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก และหลังจากนี้ต่อไปเขาจะสามารถถือดินสอได้อย่างคุ้นเคย

การสวมเสื้อและใส่รองเท้า : เด็กในวัยนี้สามารถสวมเสื้อและใส่รองเท้าได้ด้วยตนเอง ถ้าพวกเขามีเวลาและความอดทน ทำให้การสวมใส่เสื้อและรองเท้าเป็นเรื่องง่ายสำหรับเด็กๆ บอกให้พวกเขาใส่และเก็บให้เป็นที่ โดยเริ่มจากการเกี่ยวตะขอกระโปรงด้วยตนเองให้ได้ และควรเป็นกำลังใจให้พวกเขาแม้ว่าเขาจะทำไม่สำเร็จ

ลูกรักวัย 3-4 ขวบ Francoeur กล่าวว่าเด็กวัยนี้จะมุ่งความสนใจไปยังสิ่งที่พวกเขาอยากทำ

การกินอาหารด้วยส้อม : เด็กบางคนมักเลือกที่จะใช้มือในการกินอาหารมากกว่า แต่เด็กในวัยนี้สามารถใช้ส้อมกินอาหารได้เองแล้ว ดังนั้นปล่อยให้ลูกๆได้ใช้ส้อมช่วยและส่งเสริมให้พวกเขาช่วยตัวเอง ในขณะเดียวกันก็จะช่วยให้คุณเองสะดวกขึ้นด้วย คุณควรบอกลูกรักว่าบนโต๊ะอาหารนั้นมีอาหารอะไรบ้าง หรือเชิญชวนลูกว่า “หนูพร้อมกับอาหารมื้ออร่อยแล้ว”

การอาบน้ำและสระผม : เด็กๆก่อนประถมวัยนั้น มักจะอาบน้ำในอ่าง แต่ควรปล่อยให้พวกเขาอาบน้ำด้วยตนเองให้คำแนะนำวิธีการใช้สบู่ทำความสะอาบร่างกาย และการใช้ผ้าเช็ดตัว เด็กวัยอนุบาลสามารถสระผมได้ด้วยตัวเอง (และสนุกกับการเล่นฟองสบู่) แต่เมื่อสบู่เข้าตา เราควรให้ความช่วยเหลือแก่เด็กๆ

การเลือกเสื้อผ้าและการสวมชุด : แม้ว่าคุณจะเลือกเสื้อผ้าไว้ให้กับลูกในโอกาสพิเศษแล้ว แต่คุณควรเปิดโอกาสให้ลูกรักได้เลือกเสื้อและชุดของตนเอง ถึงแม้ว่ามันจะไม่เข้ากันเลยก็ตาม ทำให้ลิ้นชักตู้เสื้อผ้าเปิดเข้าออกได้อย่างง่ายดายไว้ เก็บแยกเสื้อผ้าที่ยังไม่ได้ใช้ในฤดูกาลนั้นๆ เพื่อที่ลูกรักจะได้ไม่ใส่เสื้อแขนยาวในฤดูร้อน ช่วยให้ลูกรู้จักซ้ายและขวาก่อน และเริ่มจากการติดสติ๊กเกอร์บอกซ้ายหรือขวาในรองท้าของลูก และเพื่อจะได้มั่นใจว่าลูกใส่รองเท้าถูกข้าง

ลูกรักวัย 5-8 ปี เด็กวัยนี้สมองส่วนต่างๆของพวกเขาได้รับการพัฒนา ที่เกี่ยวกับกระบวนการรับรู้ การวางแผน ความจำ การให้ความสนใจและจัดระบบความคิดต่างๆ

การใช้ห้องน้ำสาธารณะ : เด็กวัย5ขวบ พร้อมแล้วกับการเข้าห้องน้ำสาธารณะด้วยตัวเอง พ่อแม่ควรเตือนลูกรักให้ล้างมือด้วยหลังเสร็จกิจ แนะนำลูกรักให้ใช้ชักโครกสาธารณะให้ถูกสุขลักษณะ เพราะมีผู้ใช้เป็นจำนวนมากแผ่นรองนั่งมันอาจจะแห้งหรือยังเปียกอยู่ และใช้วิธีการเช็ดที่ถูกต้อง ยืนรออยู่ด้านนอกหากลูกต้องการความช่วยเหลือ

การแปรงฟัน : เด็กในช่วง 8ขวบ ส่วนใหญ่สามารถแปรงฟันได้ด้วยตนเอง และใช้ไหมขัดฟันเป็นตอนอายุ 10ขวบ เลือกแปรงสีฟันที่เหมาะกับลูก หัวแปรงแบบไฟฟ้าส่วนมากจะใหญ่เกินไป ทำให้ทำความสะอาดไม่ถึงฟันกรามด้านใน ลองใช้ไหมขัดฟันแบบแท่งจับ คู่กับยาฟัสันรสผลไม้

การกินอาหารโดยใช้มีดเล็ก : เด็กวัยนี้สามารถหั่นอาหารได้เองด้วยมีดเล็ก ให้ลูกใช้มีดอย่างระมัดระวัง Madelaine Wice เด็กวัย 6ขวบสามารถหั่นเนื้อเองอย่างชำนาญ “เราบอกเธอว่า ตอนนี้เธอเหมือนเด็กโตเลย และเธอก็ชอบมัน เพราะมันทำให้เธอรู้สึกว่าโตกว่า Samน้องชายของเธอ ” แม่ของเธอ gynthia Keeshan กล่าว

การทำการบ้าน : เด็กบางคนสามารถทำการบ้านเองได้และขณะเดียวกันเด็กบางคนก็ต้องการความช่วยเหลือ แต่เด็กวัย8-9ขวบนั้นพร้อมแล้วที่จะทำการบ้านด้วยตัวเอง แรกๆอาจช่วยพวกเขาทำการบ้าน หลังจากเลิกเรียนหรือหลังจากอาหารมื้อเย็น และในที่สุดลูกรักก็จะสามารถทำการบ้านได้ด้วยตนเอง

ลูกรักตั้งแต่ 9 ขวบขึ้นไป สมองส่วนลิมบิกของเด็กในวัยนี้กำลังพัฒนา ทำให้ลูกได้เรียนรู้เกี่ยวกับสภาพบุคคลและสภาพสังคมให้ได้ดีขึ้น Francoeur กล่าว

การจัดเตรียมอาหาร : เด็กวัยนี้ส่วนใหญ่จะสามารถทำอาหารเที่ยงไปกินที่โรงเรียนเองและทำอาหารในบางมื้อได้ให้ลูกช่วยทำอาหาร คอยช่วยควบคุมให้คำแนะนำ ขณะที่เขาช่วยคนอาหารในหม้อที่อยู่บนเตา หรือการหันผัก นั่นจะทำให้ลูกรู้สึกมั่นใจและรู้สึกว่าตัวเองเก่ง Kayla Hall วัย11ปี ช่วยพ่อแม่ของเธอเลือกส่วนประกอบของการทำอาหารจากร้านของชำ เพื่อทำเป็นอาหารมื้อเที่ยงไปกินที่โรงเรียน และทำคุ๊กกี้และมัฟฟินด้วยตัวเอง “ พวกเราไม่ได้บังคับให้ลูกทำอาหาร แต่เราสนับสนุนเธอ เมื่อเธอสนใจจะทำขนมหรืออาหารเอง ” แม่ของเธอกล่าว

การขึ้นรถประจำทางคนเดียว : เด็กวัย12ปีส่วนใหญ่ โตพอที่จะขึ้นรถประจำทางหรือรถไฟฟ้าใต้ดินด้วยตัวเองหรือกับเพื่อน พาลูกออกไปสถานที่ต่างๆด้วยกัน แทนที่จะขับรถไปห้าง ให้หันไปใช้ด้วยรถโดยสารประจำทางแทน และปล่อยให้ลูกนำทางไปสถานที่นั้นๆ “ มันช่วยจำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เหมือนเป็นการฝึกฝนให้ลูกรู้จักการถามทางจากคนแปลกหน้า ” Patty Young กล่าว แม่ของ Maya Shaffer-Young กล่าวกับลูกวัย13ปีว่า “ แม่บอกเสมอว่าถ้าลูกต้องการความช่วยเหลือให้ถามกับผู้หญิงหรือเด็ก พวกเราให้ลูกพกโทรศัพท์ไว้เสมอ ดั้งนั้นเธอสามารถโทรหาพวกเราและพวกเราก็รู้ว่าจะหาเธอได้จากที่ไหน”

ทักษะทั้งหมดนี้คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองสามารถเริ่มได้ตั้งแต่วันนี้เพื่อให้ลูกรักโตขึ้นอย่างมีคุณภาพและพร้อมที่จะดูแลตนเองได้อย่างมีความสุขทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน

Tags:

Share:

Share on facebook
Share
Share on twitter
Share

You Might Also Like This

มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2566

เริ่มแล้ว! มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2566

เนื่องในสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ เพื่อเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฏ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช “พระราชบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย”

Read More

สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 51

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 มีนาคม 2566 กรมสมเด็จพระเทพฯ เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดงาน
สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 51 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 21

Read More

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอม ให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save