หลายๆคนอาจจะเคยได้ยิน 4 ทักษะหลัก ของทุกภาษา นั่นก็คือ ฟัง พูด อ่าน เขียน คำตอบของวิธีที่ดีที่สุด ก็อยู่ในหลัก 4 ทักษะนั้นแหละค่ะ ไม่ต้องคิดไปไหนไกลเลย! เริ่มแรกเรามาว่ากันด้วย
JUST LISTENING
เรียกได้ว่าสมัยนี้การสอนภาษาให้เด็กๆหลายคน ถ้าจะมานั่งสอนแบบครูสอนเด็กในโรงเรียน เด็กๆ ชักจะเบื่อไม่อยากฟังกันแล้ว เราใช้วิธีฟัง ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงสากล ฟังหนังที่พูดหลากภาษา หรือ แม้แต่การฟังเราพูดภาษาอังกฤษให้ลูกฟัง เด็กๆก็จะซึมซับเข้าไปเรียบร้อยแบบไม่รู้ตัวเลย บางทีเขาก็จะ พยายามที่จะเลียนแบบเสียงเหล่านั้น หรือ เริ่มทำความเข้าใจว่า ที่เราฟังมาเนี่ยมันหมายความว่าอะไรนะ
THEN SPEAKING
การเลียนเสียงก็จะเกิดขึ้นตามมาค่ะ ธรรมชาติของเด็กๆ หรือ แม้แต่เด็กๆวัยรุ่นเอง เมื่อเขาได้ยิน ได้รับสารที่เป็นสื่อภาษา เขาจะรู้สึกถึงความ เออมันเพราะดีนะ มันเท่ห์ดีนะ แล้วก็เกิดการเลียนแบบ และ เรียนรู้ตาม แน่นอนว่าคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องให้ความร่วมมือด้วยเช่นกัน ด้วยการ พูดกับเลูกน้อย เกิดเป็นการสื่อสารที่ลงตัว ซึ่งจะสร้างความรู้สึกดีๆ ทัศคติดีๆ ให้เกิดขึ้นกับการเรียนภาษา
GO READING
เคยได้ยินไหมว่า สมองคนเราจดจำเป็นภาพค่ะ หรือ มีลักษณะทางความคิดแบบ Radiant Thinking ใช้หลักการเดียวกันค่ะ ภาษาทุกภาษาถ้าอยากให้มีครบทุกด้านแล้ว เรื่องการสะกดคำก็สำคัญไม่แพ้กันค่ะ หากจะเริ่มด้วยตัวพยัญชนะก็อาจจะมี Book น่ารักๆให้เขาได้อ่าน หรือ จะเป็นพวกนิทานคำศัพท์ง่ายๆ ให้เขาค่อยๆซึมซับ เพิ่มเติมเกมส์ภาษาให้ได้ลองเล่น หากมีภาพประกอบยิ่งดีนะ เด็กๆจะสามารถจำได้ว่า ภาพนี้ คือ ศัพท์นี้ ทำให้เด็กเรียนรู้เร็วยิ่งขึ้น
KEEP WRITING
เด็กๆสมัยนี้อาจจะเบื่อที่จะเขียน ภาษาไทยยังแทบจะสะกดคำไม่ถูก แล้วนับภาษาอะไรกับอังกฤษ อย่าเพิ่งวิตกกังวลไป สำหรับเด็กแล้ว การเขียนเป็นเรื่องที่ยากที่จะทำให้เด็กๆสนุกกับมันได้ ขอแนะนำเคล็ดลับความสนุกด้วยการ เขียน Diary มันก็จะออกกึ่งบังคับหน่อยๆ แต่ก็ชวนเขาเขียนชีวิตประจำวันด้วยภาษาที่สองค่ะ อาจจะให้ลองนึกและลองเขียน แรกๆก็ช่วยเขาเขียน ทำเป็นประจำทุกวันนะคะ ประหนึ่งว่าคือการบ้านที่ต้องส่งทุกๆเช้า แค่นี้น้องก็จะเริ่มซึมซับว่า “เอ๊ะ..คำนี้ต้องเขียนยังไง อยากจะพูดแบบนี้ต้องทำยังไง” แค่นี้ง่ายนิดเดียวเอง