เคยไหมที่เด็กๆ ดูไม่สนใจสิ่งใดๆ รอบตัวเลย? เคยไหมที่เมื่อคุณพ่อคุณแม่ให้ลูกๆ ช่วยทำอะไร ลูกๆ ก็ต่อต้านไปซะทุกอย่าง? ไม่ว่าจะทำการบ้านของตัวเอง โฟกัสกับการเรียน หรือจะเป็นการช่วยทำงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม โดยบทความนี้จะมาช่วยเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้กับคุณพ่อคุณแม่ให้เข้าใจเด็กๆ มากขึ้น และจะช่วยทำให้เด็กๆ มีกำลังใจที่จะทำสิ่งต่างๆ เพื่อไปสู่เป้าหมายและประสบความสำเร็จในอนาคตได้มากยิ่งขึ้น
- อย่าให้ความวิตกกังวลส่วนตัวของคุณพ่อคุณแม่มาบีบบังคับเด็กๆ – การบีบหรือกระตุ้นเด็กๆ ให้เป็นหรือสนใจในสิ่งที่พ่อแม่ต้องการไปซะทุกอย่าง อาจจะทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี ไม่ว่าจะด้านความสัมพันธ์ภายในครอบครัวหรือจะต่อตัวเด็กๆ เอง เช่น ถ้าหากกระตุ้นเด็กบางคนมากจนเกินไปในสิ่งที่เด็กไม่สนใจ เด็กบางคนอาจจะรู้สึกอยากจะต่อต้านกับความต้องการของพ่อแม่มากกว่าจะมีเวลาในการหาทางที่จะกระตุ้นตนเองและตามหาสิ่งที่ตนเองสนใจและถนัดจริงๆ
- พ่อแม่ต้องเป็นผู้ที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆ – แทนที่พ่อแม่จะ พยายามที่จะกระตุ้นพวกเขา พ่อแม่ควรที่จะเป็นแบบอย่างที่ดีที่จะกระตุ้นเด็กๆ ทางอ้อม คำถามที่พ่อแม่ควรจะถามตัวเองอยู่เสมอคือ พฤติกรรมของตนเองนั้นกำลัง “สร้างแรงบันดาลใจ” ให้กับเด็กๆ หรือว่าเป็นการ “ควบคุม” เด็กๆ กันแน่? ถ้าเป็นอย่างที่สองละก็เตรียมใจไว้ได้เลยว่าเด็กๆ บางคนอาจจะอยากต่อต้านแน่นอน
- ให้เด็กๆ เลือกทางของพวกเขาเอง และเรียนรู้กับผลที่ตามมา – เมื่อเด็กๆ มีตัวเลือก ให้พวกเขาได้มีโอกาสเลือกทางของพวกเขาเอง และถ้าหากเป็นทางเลือกที่ผิดหรือไม่ได้ดีที่สุดสำหรับตัวพวกเขา เด็กๆ ก็ควรที่จะได้เรียนรู้กับผลที่ตามมา เช่น ถ้าหากเด็กๆ ไม่ทำการบ้าน ผลก็คืออาจจะโดนยึดคอมพิวเตอร์ เพื่อที่จะสร้างแรงจูงใจให้เด็กๆ ตั้งใจแก้ตัว และถ้าหากพวกเขาตั้งใจทำการบ้านจนเสร็จ ผลก็คือพวกเขาจะได้สิ่งที่พวกเขาต้องการคืน ซึ่งก็นับว่าเป็นแรงจูงใจที่ดีที่จะสอนให้เด็กๆ ได้เข้าใจทางที่ถูกต้องว่าต้องทำอะไร ทำอย่างไร และทำไมต้องทำ
- พ่อแม่ต้องตั้งคำถามกับตัวเองดังนี้:
- อะไรเป็นที่สิ่งจูงใจลูกๆ ของคุณ?
- ลูกของคุณต้องการอะไรกันแน่?
- คำถามประเภทไหนที่พ่อแม่จะถามลูกๆ ได้เพื่อที่จะให้พวกเขาเข้าใจตนเองมากขึ้น?
- เป้าหมายและความใฝ่ฝันของพวกเขาคืออะไร?
ให้คุณพ่อคุณแม่ลองมองพวกเขาห่างๆ และสังเกตว่าพวกเขาเป็นคนอย่างไรและลองตอบคำถามข้างต้นนี้ ว่าพวกเขาต้องการสิ่งใดในชีวิต โดยที่เคารพการตัดสินใจและคำตอบของพวกเขาโดยไม่ตัดสิน ถึงแม้ว่าพ่อแม่อาจจะไม่เห็นด้วยกับคำตอบที่จะได้ก็ตาม
- คุณอยากจะเป็นพ่อแม่รูปแบบใด? — 2 รูปแบบที่พ่อแม่สามารถเลือกเป็นได้คือ
5.1 พ่อแม่แบบที่อยากให้ลูกๆ เป็นคนที่กระตือรือร้นอยู่ตลอดเวลาและอยากให้พวกเขาได้สิ่งที่เพอร์เฟ็กต์ที่สุดในชีวิต เช่น ตื่นนอน ไปโรงเรียน ทำการบ้านเสร็จ และประสบความสำเร็จในชีวิต หรือ
5.2 พ่อแม่แบบที่อยากให้ลูกๆ เป็นคนที่สามารถกระตุ้นตนเองได้กับสิ่งต่างๆ ที่พวกเขาต้องการ พวกเขาอยากเป็นผู้ที่จะกระตุ้นให้เด็กๆ กระตือรือร้นด้วยตนเองเพื่อทำในสิ่งไม่ใช่แค่ทำสิ่งที่ถูกต้อง แต่อยากที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งทั้งคุณพ่อคุณแม่ต้องตัดสินใจว่าอยากจะเป็นพ่อแม่ประเภทใด ถ้าหากเป็นประเภทแรก วิธีที่จะจัดการกับเด็กๆ ก็คือการกระตุ้น ลงโทษ ขอร้อง ดุว่า ให้รางวัล หรือโน้มน้าว เป็นต้น แต่ถ้าอยากเป็นแบบที่สอง วิธีการที่จะให้เด็กๆ ไปถึงเป้าหมายของพวกคุณก็คือการถามพวกเขาด้วยคำถามที่สร้างสรรค์ เช่น แทนที่จะถามลูกๆ ว่า “ทำการบ้านเสร็จหรือยัง?” เป็น “ทำไมถึงเลือกที่จะทำการบ้านวันนี้ แต่ไม่ใช่เมื่อวาน? พ่อ/แม่สังเกตว่าหนูเลือกที่จะไม่ทำการบ้านคณิตฯเมื่อวาน แล้วมาทำการบ้านวิชาสังคมฯวันนี้ เพราะอะไรหรอ?” เป็นตัวชี้นำผ่านการตั้งคำถามให้พวกเขาได้เข้าใจสิ่งที่ตนเองสนใจมากขึ้น
6. การที่ลูกไม่มีแรงบันดาลใจ ไม่ใช่ความผิดของคุณพ่อคุณแม่เสมอไป – ให้พวกคุณเตือนตัวเองไว้ว่าการที่เด็กๆ นั้นไม่มีแรงบันดาลใจในการทำอะไร ไม่ใช่ความผิดของพวกคุณเลย ทางออกของปัญหานี้คือ ให้พวกคุณลองมองพวกเขาอยู่ห่างๆ ลองสังเกตมากขึ้นว่าอะไรเป็นสิ่งที่กระตุ้นและเหมาะสมกับพวกเขา ลองสังเกตกับสิ่งที่พวกเขาต้องทำแต่พวกเขาไม่ชอบ สิ่งที่คุณจะสามารถช่วยพวกเขาได้ดีก็คือสนับสนุนในสิ่งที่คุณรู้ว่านี่คือสิ่งที่ลูกๆ ของคุณถนัดและสนับสนุนพวกเขากับสิ่งที่พวกเขาต้องการ บางทีการถอยหลังออกมาแล้วให้พื้นที่ที่พวกเขาจะได้ค้นหาสิ่งที่ตนเองสนใจนั้นก็นับเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เช่นกัน
อ้างอิง: https://www.empoweringparents.com/article/unmotivated-child-6-ways-get-child-going/